ข่าว

จะขันโซ่เลื่อยโซ่ให้แน่นได้อย่างไร?

Updated:13-12-2021
1. สกรูปรับโซ่อยู่ด้านหลังเพลาหมุนของเครื่องยนต์หลักของเลื่อยโซ่ มีสกรูปรับระหว่างโซ่กับลูกปืน ใช้ไขควงหมุนตามเข็มนาฬิกาเพื่อขันให้แน่น และหมุนทวนเข็มนาฬิกาเพื่อคลาย
2. ขณะปรับความแน่นของสกรู ให้ตรวจสอบความแน่นของโซ่ หากความแน่นเหมาะสม ก็สามารถดึงโซ่ด้วยมือได้เมื่อแขวนโซ่ไว้ที่ส่วนล่างของแผ่นนำ
3. หลังจากปรับสกรูยึดโซ่แบบหลวมแล้ว ให้ขันสกรูยึดสองตัวให้แน่นเพื่อป้องกันไม่ให้สกรูยึดโซ่หลุด

ข้อควรระวัง
1. ตรวจสอบความตึงของ เลื่อยโซ่ ให้ดับเครื่องยนต์และสวมถุงมือป้องกันบ่อยครั้งเมื่อตรวจสอบและปรับแต่ง ความตึงที่เหมาะสมคือเมื่อโซ่ห้อยอยู่ที่ส่วนล่างของแผ่นนำ ก็สามารถดึงโซ่ได้ด้วยมือ
2. ต้องเทน้ำมันเล็กน้อยออกจากโซ่เสมอ ต้องตรวจสอบระดับน้ำมันของการหล่อลื่นโซ่เลื่อยและถังน้ำมันหล่อลื่นทุกครั้งก่อนทำงาน โซ่จะต้องไม่ทำงานหากไม่มีการหล่อลื่น หากใช้โซ่แบบแห้ง อุปกรณ์ตัดจะเสียหาย ห้ามใช้น้ำมันเครื่องเก่า น้ำมันเครื่องเก่าไม่สามารถตอบสนองความต้องการในการหล่อลื่นและไม่เหมาะสำหรับการหล่อลื่นโซ่
3. หากระดับน้ำมันในถังน้ำมันไม่ลดลง การส่งสารหล่อลื่นอาจทำงานผิดปกติ ควรตรวจสอบการหล่อลื่นโซ่ และควรตรวจสอบวงจรน้ำมัน การผ่านตัวกรองที่ปนเปื้อนอาจทำให้การจ่ายน้ำมันหล่อลื่นไม่ดี ทำความสะอาดหรือเปลี่ยนไส้กรองน้ำมันหล่อลื่นในท่อเชื่อมต่อระหว่างถังน้ำมันและปั๊ม
4. หลังจากเปลี่ยนและติดตั้งโซ่ใหม่ โซ่เลื่อยต้องใช้เวลารันอิน 2 ถึง 3 นาที ตรวจสอบความตึงของโซ่หลังจากการรันอิน และปรับใหม่หากจำเป็น โซ่ใหม่ต้องใช้ความตึงบ่อยกว่าโซ่ที่ใช้มาระยะหนึ่งแล้ว ในสภาวะเย็น จะต้องติดโซ่เลื่อยไว้ที่ส่วนล่างของแผ่นนำ แต่สามารถเคลื่อนย้ายโซ่เลื่อยบนแผ่นนำด้านบนได้ด้วยมือ หากจำเป็น ให้ตึงโซ่อีกครั้ง
5. เมื่อถึงอุณหภูมิในการทำงาน โซ่เลื่อยจะพองและหย่อนเล็กน้อย และตัวส่งกำลังที่ส่วนล่างของแผ่นนำไม่สามารถหลุดออกจากร่องโซ่ได้ ไม่เช่นนั้นโซ่จะกระโดดและจำเป็นต้องปรับความตึงโซ่ใหม่ . ต้องคลายโซ่หลังเลิกงาน โซ่จะหดตัวเมื่อเย็นลง และโซ่ที่ไม่หลวมจะทำให้เพลาข้อเหวี่ยงและแบริ่งเสียหายได้ หากโซ่ตึงในสถานะทำงาน โซ่จะหดตัวเมื่อเย็นลง และโซ่จะแน่นเกินไปที่จะทำให้เพลาข้อเหวี่ยงและแบริ่งเสียหาย



ติดต่อเรา